the gaurdian of foret - นิยาย the gaurdian of foret : Dek-D.com - Writer
×

    ผู้เข้าชมรวม

    45

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    45

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 ธ.ค. 57 / 21:22 น.
    e-receipt e-receipt
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

       โลกเวทย์มนต์ดินแดนอันแสนมหศจรรย์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของเหล่าสัตว์ในตำนานต่างๆ และเรื่องพ่อมด แม่มดที่ทุกคนเคยได้ยิน รวมถึงเรื่องราวของเวทย์นาๆชนิด เทพและปีศาจต่างๆ รวมเอาไว้ด้วยกัน และโลกเวทย์มนต์แห่งนี้ที่มีชื่อว่า โซโดรเทีย จึงได้มีการจัดให้มีสภาของจอมเวทย์ชั้นสูง เพื่อรับฟังหรือตัดสินโทษหรือคดีต่างๆ เพื่อความสงบสุขของ      ประชากรทั้งหมดด้วยความยุติธรรม และโซโดรเทียนั้นมีการจำแนกเมืองออกเป็นหลายๆเมือง เพื่อรองรับเหล่าประชากรทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี และทุกๆเมืองจะโอบล้อมไปด้วยป่าเป็นขนาดย่อมๆ และทุกเมืองจะมีป่าของตนเองและจะมีเทพ   อยู่กลุ่มหนึ่งประจำอยู่ในป่าของตนเองแต่ละเมือง ทุกคนนั้นรู้จักกันในนาม ‘Goddess Nature’เทพเหล่านี้จะอาศัยอยู่ตามป่าและดูแลปกป้องอาณาเขตของตนเอง มีขนาดเท่ามนุษย์ ในแต่ละเมืองและห้ามผู้ใดรุกล้ำเข้าไปในป่าที่มีเทพคอยดูแลอยู่มิฉะนั้นจะกลับออกมาไม่ได้อีกเลยนอกจากเทพที่ดูแลป่านั้นจะอนุญาต เว้นแต่มีเรื่องที่จำเป็นจริงๆหรือถ้าหลงข้ามา หรือถ้าไม่รู้จริงๆ  เทพประจำเขตนั้นก็จะชี้ทางออกให้ และเทพเหล่านี้ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทิ้งป่าออกไปสู่โลกภายนอกได้ เพราะถ้าทำเช่นนั้นป่าก็จะหายไปและกลายเป็นที่ที่ทุกคนไม่รู้จักอีกเลย แล้วเมืองนั้นจะกลายเป็นเมืองที่ไม่อุดมสมบูรณ์ในทันทีเนื่องจากไม่มีป่าคอยหล่อเลี้ยงชีวิต และตัวของเทพเองก็จะสูญเสียความทรงจำที่มีต่อป่าของตนเองไปจนหมดสิ้น เว้นซะแต่จะทำสัญญาก่อนออกไปโดยใช้เวทย์ชนิดหนึ่งคือเวทย์ทำพันธสัญญา เวทย์ชนิดนี้ใช้ได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้นและจะไม่สามารถใช้ได้อีก

         และโซโดรเทียยังมีเมืองเมืองหนึ่ง เมืองนี้มีชื่อว่า เรเนีย ซึ่งมีขนาดเมืองที่ค่อนข้างจะใหญ่มากและมีป่าซึ่งมีอาณาเขตกว้างกว่าป่าอื่นๆหลายเท่ามีประชากรมากมายหลายล้านคน ด้วยเหตุนี้เมืองนี้จึงอุดมสมบูรณ์มากกว่าเมืองอื่นๆมานานหลายร้อยปีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

     

    ณ ใจกลางป่าของเมืองเรเนีย

       ป่านี้เป็นป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์ที่หาได้ยากหลายชนิดในโลกเวทมนย์แห่งนี้ เป็นที่ที่มีเหล่าต้นไม้สูงใหญ่สีเขียวนานาชนิดอยู่ทั่วผืนป่าอันกว้างใหญ่แห่งนี้ แต่ละต้นมีมีเถาวัลย์ห้อยระโยงรยางค์อยู่ตามต้นไม่ที่เก่าแก่หลายต้นและมีนกน้อยเกาะอยู่ตามต้นไม้เหล่านั้นพวกมันพากันส่งเสียงร้องขับขานเป็นเพลงไพเราะดังก้องไปทั่วป่า ประกอบกับมีเสียงน้ำตกที่ไหลลงมาจากยอดเขาอย่างต่อเนื่อง ไอจากน้ำจากน้ำตกที่ไปกระทบกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาทำให้เกิดเป็นรุ้งกินน้ำขนาดเล็กดูสวยงามจึงดูเป็นป่าที่อุดมณ์สมบูรณ์ที่สุดในโลกเวทย์มนแห่งนี้ เป็นที่ที่ใครหลายคนอยากจะมานั่งพักหรือเดินเล่นให้หายเหนื่อย แต่เพราะเป็นเขตต้องห้ามและมีเทพคอยดูแลปกป้องอยู่จึงไม่มีใครสามารถเข้ามาในที่แห่งนี้ได้เลยซักคน

      ท่ามกลางป่าแห่งนี้และเสียงขับขานไพเราะของเหล่านกน้อยมากมายนั้นได้มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินหลงเข้ามานะที่แห่งนี้ เขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ไม่รู้ว่าทางกลับออกจากป่านี้จะเดินออกไปได้อย่างไร เขาได้แต่ยืนจ้องมองเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งตัวเขาเองก็รู้ว่าเธอมีลักษณะโดดเด่นคือ ดวงตาสีเขียวอ่อนที่สื่อถึงต้นไม้ กับผมที่สีทองที่ยาวจนถึงขา เธอตัวเล็กมากและเขาก็รู้ว่าเธอเป็นผู้ดูแลป่าแห่งนี้ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา เขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากหวาดระแวงว่าจะถูกเธอลงโทษ เด็กสาวได้แต่ทำหน้างงงวยเพราะไม่รู้เป็นใครมาจากไหนกันแน่มาดีหรือมาร้ายซึ่งตัวเธอเองก็ยังไม่รู้

      “นี่นายเป็นใครกัน!!ทำไมถึงมาอยู่ในป่าแห่งนี้ได้ล่ะ” ฉันพูดถามเด็กหนุ่มคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าเขามาจากไหนเหมือนกัน-*- ฉันยืนจ้องหน้าเขาอยู่นานก็เลยถามออกไปแบบนั้น

      “ขะ...ขอโทษจริงๆฉันไม่ได้ตั้งใจเข้ามาบุกรุกผืนป่าแห่งนี้ของเธอนะ ขอร้องล่ะช่วยชี้ทางออกฉันให้ที”เด็กหนุ่มคนนั้นพูดเสียงสั่น

      คนนอกที่ไหนก็ไม่รู้หลงเข้ามาในป่าของฉัน อย่างเขาน่าจะอายุราวๆ 16-17 ปีได้ล่ะมั้งหลงเข้ามาเองแท้ๆ  ดันหาทางออกไม่เจอเนี่ยนะ-_-; แถมรู้อีกว่าฉันเป็นเทพที่ดูแลป่าแห่งนี้น่ะแล้วจู่ๆก็มาขอโทษฉันทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เป็นคนนอกจะหลงเข้ามาได้ยังไงในเมื่อเมืองมันก็ออกจะมีพื้นที่กว้างตั้งเยอะ แถมคนคนนี้ยังดูเป็นคนที่ทำอะไรก็ดูจริงจังไปหมด ทำไมน่ะรึ ก็ฉันมองดูตัวเขาแล้วนี่นา แววตาสีดำที่ดูมุ่งมั่นและแนวแน่ ผมสีดำขลับเรียบเป็นมันวาวสั้นแค่ถึงต้นคอ ผิวขาวราวกับไข่มุกสีขาว ใส่ชุดนักเรียนของเมืองนี้(ศึกษาเรื่องในเมืองมาบ้างพอสมควร)

      “นายเป็นคนนอกสินะมาจากไหนงั้นเหรอฉันถามเขาด้วยท่าทางที่อยากรู้อยากเห็นมากเลยทีเดียว

      “!!!”

      เขายืนตัวแข็งทื่อไม่พูดอไรออกมาซักประโยคเดียว พึ่งเคยเห็นเทพครั้งแรกนี่นา เขาน่าจะกลัวฉันอยู่รึเปล่า

      “ถามแล้วทำไมไม่ตอบล่ะ นี่......... ฉันไปจ้องไกล้ๆหน้าของเขาแล้วตะโกนใส่เขาเสียงดัง เขาสะดุ้งเล็กน้อยแล้วตอบ    คำถามของฉันอย่างกล้าๆกลัวๆ

      “เอ่อ...ฉะ ฉันคามิซาว่า ยู อยู่ที่เมืองเรเนีย นี่แหล่ะ ฉันแค่หลงทางเข้ามาน่ะ ยกโทษให้ฉันด้วยนะแล้วยกมือทั้งสองข้างขึ้นประกบกันเหนือหัวและโค้งไหว้เชิงขอร้องให้ฉันไม่ทำอะไรเขา

      “เดี๋ยวนะฉันยังไม่ได้ทำอะไรนายเลยนะ-_-;” ฉันยกมือขึ้นข้างหนึ่งบอกเขาว่าฉันไม่ได้มีพิษภัยเลยซักนิดเดียว

      “ฉันอยากรู้ว่านอกจากในป่านี้แล้วข้างนอกเป็นยังไงงั้นเหรอ

      ฉันลองยิงคำถามไปให้เขาดู  และดูเหมือนเขาจะงงอยู่ซักพักแล้วก็ตอบคำถามของฉันมาด้วยความมั่นใจผสมกับกลัวอยู่บ้างเล็กน้อย

      “เธอน่ะ ดูแลผืนป่าแห่งนี้มานานมากเลยสิ และดูเหมือนจะไม่เคยเจอมนุษย์หรือออกจากป่านี้เลยสินะเขาถามฉันพลางก้มลงมามองหน้าฉันอย่างจ้องหน้าฉันอย่างใจจดใจจ่อ(พอดีฉันตัวเล็กกว่าเขาน่ะเตี้ยกว่าด้วยT_T) แล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มเจื่อนๆให้ฉัน

      เออ แล้วจะทำไมล่ะยะ ตอบคำถามฉันมาสิอยากรู้จนตัวเกร็งหมดแล้วเนี่ย

      “ข้างนอกน่ะมีอะไรสนุกสนุกให้ทำตั้งเยอะแยะ ถึงแม้บางครั้งมันจะน่าเบื่อก็เถอะเขาพูดด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่ายสุดๆแล้วก็ก้มหน้าลงกับพื้นแล้วเงยขึ้นมาจ้องฉันแล้วแสยะยิ้มเล่นเอาตัวฉันที่กำลังตื่นเต้นอยู่ชะงักไปเลย เลยเผลอพูดบางอย่างออกไปแทน

      “อื้ม ฉันเองก็เคยศึกษาเรื่องราวของโลกเวทย์มนต์นี้มาบ้างเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้รู้เรื่องไปซะหมดหรอกนะ

      ฉันก็แกล้งพูดไปงั้นแหล่ะความจริงแล้วแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลยต่างหากล่ะT[]T

      “แล้วฉันจะเชื่อใจนายได้มั้ยเนี่ย-O-”ฉันถามเขาไปแล้วท้าวสะเอวใส่เขา ดูเหมือนเขาจะไม่กลัวแล้วแต่ทำไมยิ้มแปลกๆล่ะ

      “งั้นเธอลองไปข้างนอกดูมั้ยล่ะ ไปเข้าโรงเรียนที่ฉันเรียนอยู่ด้วยไง จะได้ศึกษาเรื่องราวของโลกภายนอกไปพร้อมๆกันเลย ไง’’เขาพูดชวนให้ฉันออกไปข้างนอก แล้วเอามือเสยผมข้างหน้าขึ้นมาจานั้นจึงมองมาที่ฉันอีกรอบ

      “จริงเหรอพาฉันออกไปหน่อยสิ นะๆๆๆ*O*”

    พอฉันฟังที่เขาพูดแล้วถึงกับตาเป็นประกายแล้วออดอ้อนเหมือนลูกแมวน้อย แต่เดี๋ยวก่อนนะ-_-; ฉันลืมอะไรไปรึเปล่า อืม...อืม... เอ๊ะ!! ลืมไปเลยฉันทิ้งป่านี้ไปไม่ได้นี่นาT[]T โธ่ ลูน่า ไม่น่าดีใจออกนอกหน้าเลย คงต้องปฏิเสธเขาไปสินะ

      “แต่จะว่าไปเธอเป็นเทพดูแลผืนป่าแห่งนี้สินะ ฉันก็จำได้ลางๆว่าออกไปจากป่าที่ตนเองประจำอยู่ไม่ได้ งั้นฉันจะพาเธอออกไปเองเอามั้ยล่ะเขาพูดแล้วก็ยิ้มขึ้นมาอย่างไร้เดียงสาเหมือนเด็ก น่ารักชะมัด-///////-

      เขาดีดนิ้วดังเป๊าะ แล้วจับแขนอันบอบบางของฉันขึ้นมา แล้วพูดแนะนำอะไรบางอย่างให้ฉันฟัง

      “ฉันจะให้เธอทิ้งป่านี้ไปซักพักแล้วปล่อยให้สัตว์ในนี้ ดูแลป่าแทนเธอไง’’เขาจ้องหน้าและมองฉันอย่างจริงจังและมุ่งมั่นมาก

      “ห๊ะ นี่นายว่ายังไงนะ O_o ทิ้งไปงั้นเหรอ นี่นายจะบ้ารึไง ฉันดูแลป่านี้มาตั้งนานจะให้ฉันทิ้งไปเนี่ยนะ’’ฉันตวาดใส่เขาอย่างแรง ก่อนจะหันหน้าไปทางอื่น

      “แล้วจะเอาไงแน่ ข้างนอกก็อยากไป แต่ก็ทิ้งป่าไม่ได้ตกลงเธอจะเอาไงแน่ห๊ะ’’เขาตวาดฉันกลับเขาเริ่มทำหน้าไม่พอใจแล้วยืนกอดอก เด็กหนุ่มที่ใสซื่อเมื่อกี๊หายไปไหนแล้วนะTOT~

      “แต่ถ้าฉันออกไปจากป่านี้ ฉันจะกลับเข้ามาไม่ได้อีกนะ เพราะถ้าไม่มีเทพคอยดูแลแล้วป่านี้ก็จะหายไปและกลายเป็นที่ๆทุกคนไม่รู้จักและความทรงจำที่มีต่อป่านี้ของฉันก็จะหายไป แล้วฉันก็จะจำอะไรที่เกี่ยวกับป่านี้ไม่ได้อีกเลย’’ฉันก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วลดเสียงลงแต่สายตาก็ยังมองไปที่เขาอยู่เหมือนเดิม จะได้รู้ว่าเขาพูดหรือทำอะไรอยู่

      “ฉันก็พอจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้มามากพอสมควร แค่ใช้เวทย์ทำสัญญาต่อผืนป่าแห่งนี้ซะสิ เธอเองก็เป็นเทพดูแลป่าแห่งนี้ไม่ใช่เหรอ น่าจะรู้เวทย์นี้นะ’’เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแล้วชี้มาที่ตัวฉันที่ยืนก้มหน้าอยู่

    จริงด้วย ฉันลืมไปว่ามีเวทย์ชนิดหนึ่งสามารถนำมาใช้ได้อยู่แต่ได้แค่สองครั้งเนี่ยสิ เป็นเทพที่ขี้ลืมจังเลยนะเนี่ยฉันเนี่ย

      ฟึ่บ!!

      !!!!?

    ฉันหันไปทางเขาแล้วส่งยิ้มให้ประมาณว่า ขอบคุณที่เตือนความจำให้นะ เขาดูตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้าให้

    จากนั้นฉันจึงบอกให้เขาถอยหลังให้ห่างจากฉันซัก ก้าว แล้วฉันก็เริ่มร่ายเวทย์

      ผืนป่าใหญ่แห่งนี้จงฟังข้า ตัวข้า ลูน่า คุโรฮานะ ผู้ปกป้องที่แห่งนี้เรื่อยมา ข้าขอทำสัญญากับท่าน

    พอกล่าวก็มีวงแหวนเวทย์สีขาวขนาดใหญ่ปรากฏณ์ขึ้นมาเป็นแสงสว่างจ้า แล้วจากนั้นฉันจึงกัดที่หัวแม่มือจนเลือดไหลแล้วปล่อยให้หยดลงบนวงแหวนขนาดใหญ่ที่ฉันยืนอยู่ แล้วจึงเริ่มขั้นต่อไป

      ด้วยอำนาจแห่งเทพผู้ดูแลผืนป่าแห่งนี้ ข้าขอสาบานว่าจะอยู่คู่ท่านไปจนกว่าโลกแห่งนี้จะดับสิ้น หากข้าผิดสัญญากับ  ท่านขอชีวิตข้าจงหาไม่

    พอกล่าวเสร็จสิ้น วงแหวนก็ขยายใหญ่แผ่เป็นวงกว้างครอบคลุมไปทั่วทั้งป่าของฉัน เกิดเป็นแสงสีขาวสว่างไปทั่วทั้งป่าส่องสว่างทั่วทั้งฟ้า จากนั้นจึงเป็นอันเสร็จพิธี เหตุการณ์กลับมาเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แหม ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าฉันจะทำได้ขนาดนี้ (หลงตัวเองก็เป็นด้วย)   จากนั้นฉันจึงเดินไปหายู (เพิ่งจำชื่อได้แต่เรียกชื่อห้วนๆเลยเนี่ยนะ)

      “มาสิ ไปข้างนอกกัน’’

    จู่ๆ ยูเขาก็ยื่นมือมาให้ฉันและพูดกับฉัน แต่ถ้าฉันออกไปจากป่านี้แล้ว ฉันต้องรบกวนเขาเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องแม่ของฉัน....  U_U

    ฉันนั่งเงียบอยู่นานสองนาน แล้วก็เผลอหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ยูมาสะกิดและเรียกฉันเบาๆ เพราะกลัวฉันจะตกใจ เห็นอย่างนี้ฉันก็ตกใจหรือกลัวเป็นนะ “อืม มีอะไรงั้นเหรอยู’’ ฉันถามเขาไปทั้งๆที่สลึมสลืออยู่ เขามองหน้าฉันแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน

      “ไปกันเถอะ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวฉันอุ้มเธอไปเอง เพราะนี่ก็ค่ำแล้วด้วย ^^ ’’ เขาพูดแล้วส่งยิ้มให้ฉัน พร้อมพยุงร่างเล็กๆของฉันให้ยืนขึ้น แล้วก็อุ้มฉันท่าเจ้าหญิงแล้วเดินออกมาจากโคนต้นไม้ใหญ่ สงสัยฉันคงจะเพลียจากการใช้เวทย์ทำสัญญาไปเมื่อครู่นี้ ทำไมฉันถึงอ่อนแอแบบนี้นะ ลูน่า...

      “นายน่ะรู้จักชื่อฉันรึยังล่ะ’’ฉันถามเขาด้วยเสียงที่เบามาก แต่เพราะตอนนี้ใกล้ค่ำแล้วในป่าก็เลยค่อนข้างเงียบ เขาเลยได้ยินที่ฉันพูด เขาส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วตอบฉัน

      “ยังหรอกฉันยังไม่รู้ชื่อเธอเลย”เขาพูดกับฉันแล้วส่งยิ้มบางๆให้

      “ฉันชื่อลูน่า ลูน่า คุโรฮานะ”ฉันบอกชื่อให้เขาไป เขาเลยพยักหน้าให้ฉันเล็กน้อย

      “อื้อ^^”เขายิ้มให้ฉันบางๆ แล้วเดินต่อไป

      เขาอุ้มพาฉันออกจากป่าและระหว่างนั้นฉันก็ไม่ได้หลับเพราะต้องคอยบอกทางให้เขา ขืนเดินไปแล้วฉันไม่บอกเขาคงมีหวังได้หลงกันอีกรอบแน่ๆ แต่จะว่าไปตัวเขาอุ่นมากเลยมันทำให้แทบจะเคลิ้มหลับ และสุดท้ายฉันก็หลับไปจริงๆ

      ‘นี่เธอตื่นได้แล้ว ถึงแล้วนะ

      เสียงใครน่ะทำไมถึงดูคุ้นๆหูจัง เหมือนเคยได้ยินมาครั้งหนึ่ง ฉันตื่นขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆมันไม่เหมือนบ้านไม้ ที่อยู่ในป่าของฉัน เตียงก็นุ่มแถมยังอุ่นอีกต่างหาก แล้วก็เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งถือชาร้อนมาให้ฉันถ้วยหนึ่ง หน้าเขาดูคุ้นๆ ใครนะอืม... อ๋อ ยูนี่เองฉันจำได้ว่าเจอเขาที่ป่า แล้วฉันก็ขอร้องให้เขาพาออกมาดูโลกภายนอก แล้วฉันก็ทำสัญญากับป่า จากนั้นก็เพลียจนหลับไป แล้วเขาก็อุ้มฉันมาที่นี่

      “นี่ยู ที่นี่ที่ไหนงั้นเหรอฉันไม่คุ้นเลย’’ฉันถามเขา แล้วมองไปรอบห้องด้วยความสงสัยจากนั้นจึงมองไปที่ยู

      “บ้านฉันเอง ^^ ’’เขาพูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดีสุดๆเล่นเอาฉันผงะไปเลย

      “ห๊ะ O_O จริงเหรอนี่บ้านของนายงั้นเหรอ’’

      “ใช่ นี่บ้านฉันเอง ฉันอยู่กับน้องสาวแค่สองคนน่ะ แล้วนี่ก็ห้องของฉันเอง^O^’’เขาพูดเสียงปกติ ใบหน้ายังยิ้มแย้มอยู่เหมือนเดิม

      ฟุ่บ!!!

      “เฮ้!! นี่เธอจะไปไหน OoO”เขาพูดขึ้นมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นฉันทำอะไรไม่คาดคิด

      ฉันลุกพรวดพราดขึ้นจากเตียง แล้ววิ่งไปที่หน้าต่างในห้องของเขาแต่ยังไม่ทันจะถึงฉันก็สะดุดชายกระโปรงและผ้าห่มล้มหน้าคะมำ เลยทำให้ยูที่นั่งอยู่บนเตียงต้องรีบมาประคองตัวฉันขึ้น ซุ่มซ่ามอีกแล้วค่ะ TOT

      “นี่ ระวังหน่อยสิตัวเล็กบอบบางแบบนี้เดี๋ยวก็ได้เลือดตกยางออก กันพอดีน่ะเซ่!’’เขาตวาดใส่ฉันด้วยความตกใจพร้อมกับจ้องหน้าเหมือนเป็นห่วงกัน

      ฉันนึกไม่ถึงว่าเขาจะมาช่วยพยุงฉันขึ้นเร็วมาก และดูจากที่เขาพูดแล้วเหมือนเขาเป็นห่วงฉันยังไงยังงั้นเลย ฉันเองตั้งแต่เด็กก็ซุ่มซ่ามทำให้แม่ต้องเดือดร้อนทุกที แล้วจะทำยังไงดีเพราะถ้าฉันมาอยู่กับเขา แล้วฉันทำให้เขาต้องลำบากหรือเดือดร้อนล่ะ ไม่เอานะฉันไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะฉัน แล้วตอนนี้ฉันก็หลับตาปี๋อยู่ในอ้อมกอดของยู ซึ่งตอนนี้เขากอดฉันไว้แน่น

      “...”

      “...”

      “นี่ ปล่อยฉันได้แล้วหายใจไม่ออก ฉันไม่เป็นไรแล้ว -_-; ’’ฉันพูดขึ้นมาหลังจากที่เงียบกันไปนาน

      “อ๊ะ ขอโทษที ไม่เป็นไรแล้วสินะ’’ เขาคลายกอดออกจากฉัน แล้วลุกขึ้นไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมา แล้วมายื่นให้ฉัน เล่มนั้นใหญ่มากและน่าจะหนักไม่ใช่เล่น ฉันรับหนังสือนั้นมา มันก็หนักจริงๆนั่นแหล่ะ ตรงกลางมันเขียนไว้ว่า คู่มือสมัครเข้าโรงเรียนเวทย์และข้อสอบจำนวน 100 ข้อ โหดร้ายชะมัดนี่ฉันต้องทำเองทั้งหมดเลยเหรอเนี่ย ฉันก็บอกไปแล้วไงว่าที่จริงแทบจะ ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกข้างนอกนี่เลย ฮือๆTOT ~

      “ขอบคุณนายมากเลยนะยู ช่วยฉันมาตั้งแต่เจอกันแล้ว ให้ฉันได้ช่วยนายตอบแทนนะ ^O^’’ฉันพูดขอบคุณยูด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนลูกแมวน้อย แล้วขอร้องเขาให้ฉันได้ตอบแทนเขาบ้างเพราะเขาช่วยฉันมาเยอะแล้วนี่นา^_^

      “ไม่จำเป็นหรอกน่า แค่เธอตั้งใจอ่านหนังสือเล่มนั้นแล้วตั้งใจทำข้อสอบ เพื่อเข้าโรงเรียนให้ได้แค่นั้นฉันก็ดีใจแล้ว แล้วหลังจากนี้ต่อไปเธอก็จะต้องมาอ่านหนังสือเล่มหนาวันละ 5 เล่มกับฉันที่ห้องสมุดในบ้านนะเข้าใจมั้ย’’เขาปฏิเสธฉันแล้วใช้นิ้วจิ้มที่หน้าผากของฉันเบาๆ พร้อมกับยิ้มอย่างเอ็นดู

    อ่ะ อ่านหนังสือทุกวัน!!! แถมยังอ่านวันละ 5 เล่มแถมยังเล่มหนาอีกโอ๊ยกรรมแต่ช่างเถอะ เขาใจดีมากเลย นึกไม่ถึงว่าคนนอกจะใจดีขนาดนี้ แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุปไปลูน่า เธอต้องเจอโลกภายนอกที่ยังไม่รู้จักอีกเยอะ

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น